“วินเนอร์” ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์ ใช้ “หัวใจนักสู้” หวดจนติดทีมชาติ

Written by LTAT Admin

“วินเนอร์” ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์
ใช้ “หัวใจนักสู้” หวดจนติดทีมชาติ

คอลัมน์ : เปิดตัวทีมชาติ 2564
“วินเนอร์” ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์
ใช้ “หัวใจนักสู้” หวดจนติดทีมชาติ

ความพยายามคือสิ่งสำคัญ เพราะคุณสมบัติข้อนี้ มักทำให้คนๆ หนึ่ง กลายเป็นคนที่สุดยอดขึ้นได้เสมอ เฉกเช่น “วินเนอร์” ด.ช.ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์ ผู้หลงเสน่ห์กีฬาเทนนิส เขาใช้ความพยายามมาตลอดในช่วงเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อทำความฝันให้เป็นจริง และในที่สุดก็ทำสำเร็จ!

“วินเนอร์” ฝันติดทีมชาติ ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ (เริ่มเล่นอายุ 5 ขวบ) ลงสนามศึกคัดทีมชาติทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ไม่เคยติดสักที! หลายคนเจอแบบนี้อาจถอดใจไปแล้ว แต่สำหรับ “วินเนอร์” ยิ่งแพ้ยิ่งเยอะประสบการณ์ เขาใช้มันเป็นอาวุธบนถนนแห่งความพยายาม จนทำให้มีชื่อ ด.ช.ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์ อยู่ในโผนักเทนนิสเยาวชนทีมชาติไทย ประจำปี 2564 รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ชาย ของสมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

“ผมไม่เคยท้อเลย ได้เล่นเทนนิสแล้วผมมีความสุขและสนุกมาก ผมภูมิใจมากครับที่ทำได้ตามเป้าหมาย ก่อนที่จะลงแข่งขันคัดเลือกทีมชาติครั้งนี้ ผมทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมและเตรียมตัวมาอย่างดี ทำให้พอใจมากกับผลที่ได้ติดทีมชาติครั้งแรก หลังจากที่พยายามมาหลายครั้ง” วินเนอร์ ในวัย 14 ปี เผยถึงความรู้สึกและเล่าต่ออีกว่า

“เวลาผิดหวังหรือพ่ายแพ้ ผมมองว่ามันคือประสบการณ์ ผมปลอบตัวเองว่า ความพ่ายแพ้คือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว มันคืออดีต เราต้องมองไปข้างหน้า ตั้งใจฝึกซ้อมให้มากกว่าเดิมและลุกขึ้นสู้ใหม่”

นักเทนนิสหนุ่มน้อยรายนี้เป็นชาว “เมืองหมอแคน” จ.ขอนแก่น บ้านเดียวกับ “ซูเปอร์บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ ตำนานนักเทนนิสไทย ที่เคยรั้งมืออันดับ 9 ของโลก และครองมือ 1 ของเอเชีย มาแล้ว จึงไม่แปลกที่ “วินเนอร์” จะมี ภราดร คนบ้านเดียวกันเป็นอีกหนึ่งต้นแบบ รวมทั้งชื่นชอบ โนวัค ยอโควิช มือ 1 ของโลกจากเซอร์เบียอย่างมาก เพราะสามารถเล่นได้หลากหลาย มีจิตใจแข็งแกร่ง สามารถเล่นในแต้มที่กดดันได้ดี และมีการตีที่มั่นคงไม่เสียแต้มง่ายๆ

ธีรภัทร เป็นลูกชายคนสุดท้องของ คุณพ่อกัมพล และคุณแม่สุพินดา ขันติวีรวัฒน์ โดยมีพี่ชาย 2 คน พี่คนโตชื่อ วีรวัฒน์ หรือ “ฟิล์ม” ส่วนพี่รองชื่อ ธีรวัฒน์ หรือ “หนามเตย” ทั้ง 3 คนเป็นนักกีฬาเทนนิสเช่นเดียวกับคุณพ่อกัมพล ซึ่งเป็นโค้ชคนแรกของลูกๆ จึงทำให้เมื่อมีโอกาส ครอบครัวนี้จะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับกีฬาเทนนิส เล่นเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และสิ่งสำคัญคือผลักดันน้องเล็กของบ้านไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยปัจจุบัน ธีรภัทร เป็นลูกศิษย์ของ “โค้ชเบิ้ม” ดร.ธนากร ศรีชาพันธุ์ อดีตทีมชาติไทยและเป็นพี่ชายของ ภราดร

สิ่งสำคัญของการเป็นนักกีฬานักเรียนคือการแบ่งเวลา ซึ่ง “วินเนอร์” มีแนวคิดและวิธีปฏิบัติที่น่าสนใจ เพราะสามารถทำให้การเล่นเทนนิสไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนของตัวเอง ปัจจุบัน “วินเนอร์” ศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนมณีอนุสรณ์ศึกษาขอนแก่น โดยได้รับความเอ็นดูจาก ดร.ยุพเทพ บุณยฤทธิ์รักษา ผู้อำนวยการโรงเรียนมณีอนุสรณ์ศึกษาขอนแก่น ที่เล็งเห็นถึงความสามารถด้านกีฬาและวิชาการ มอบทุนการศึกษาให้ 3 ปี

“ถ้าครูให้การบ้าน ผมจะรีบทำให้เสร็จที่โรงเรียนเลย เพื่อจะได้ไปซ้อมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการบ้าน เวลาอยู่ในห้องเรียนก็ตั้งใจเรียนให้เต็มที่ สำหรับเกรดเฉลี่ย ผมเคยทำได้สูงสุดของตัวเองคือ 3.88 และไม่เคยต่ำกว่า 3.5 เลยครับ มันทำให้ผมมีกำลังใจที่ดีมาก ในเมื่อเรื่องเรียนเราก็ทำได้ จึงอยากทำให้ได้ดีเรื่องเทนนิสด้วยครับ” วินเนอร์ กล่าว

ปัจจุบัน ธีรภัทร เป็นมืออันดับ 1 ของประเทศไทย ในรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ชาย จากการจัดอันดับของสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ และเล่นเทนนิสสไตล์การเล่นเบรดไลน์ท้ายคอร์ตเหนียวแน่น มีจังหวะค่อยบุกทำแต้ม

นับตั้งแต่เล่นเทนนิสมาจนถึงปัจจุบัน “วินเนอร์” ได้มาแล้ว 126 รางวัล โดยผลงานที่เจ้าตัวภูมิใจมากคือ การได้แชมป์ทั้งประเภทชายเดี่ยวและชายคู่ ซึ่งคู่กับ ณัฐพล เถามณี ในรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี การแข่งขันเทนนิสเยาวชนนานาชาติ ที่เมืองกวางโจว ประเทศจีน ปี 2017 มันคืออีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขามีกำลังใจที่จะพยายามทำผลงานให้ดีขึ้น ต่อมาปี 2019 ได้เป็นตัวแทนไปแข่งที่จีนอีกครั้ง ได้แชมป์ประเภทชายคู่ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี มาครอง โดยจับคู่กับ วชิรวิช สิงห์การ

นอกจากนี้เจ้าตัวยังภูมิใจที่ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ ประเภทชายเดี่ยว รายการ “สิงห์ แกรนด์สแลม เอ็กซ์พีเรียนซ์ 2019”, แชมป์ประเภทชายคู่ เทนนิส รายการ “แอลทีเอที เอเชี่ยน โฟร์ทีน แอนด์ อันเดอร์ 2021” โดยจับคู่กับ ธีร์ธวัช ธวัชผ่องศรี ร่วมกันคว้ารางวัลมาได้, แชมป์ประเภทชายเดี่ยว รายการ “พีทีที มาสเตอร์ คัพ 2020” และแชมป์ประเภทชายคู่ (คู่กับ ดนุนัย ภู่เกษร) ศึกเทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 58 ปี 2563

การได้รางวัลมากมายกว่าร้อยรางวัล ยังทำให้ “วินเนอร์” ได้ครองตำแหน่งรองชนะเลิศ รางวัลนักเรียนผู้สร้างชื่อเสียงระดับประเทศ ประจำปี 2564 สมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน อีกด้วย

กว่าจะมาถึงวันนี้ “ครอบครัวขันติวีรวัฒน์” ได้พยายามอยู่หลายวิธีกับการปลุกปั้นลูกชายทั้ง 3 คนให้ก้าวสู่สังเวียนเทนนิส แต่สุดท้ายเหลือเพียง “วินเนอร์” ที่อยากไปต่อ กระทั่ง 3 ปีที่แล้ว ทุกคนในครอบครัวลงความเห็นตรงกันว่า หากต้องการให้ “วินเนอร์” ก้าวสู่เป้าหมายได้สำเร็จ ต้องปรับเปลี่ยนและวางแผนใหม่ โดยคุณพ่อกัมพล ซึ่งรับราชการ ยังคงเป็นเสาหลักของบ้านในการหารายได้ แต่ทางคุณแม่สุพินดา จำเป็นต้องลาออกจากงานมาช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินตามหลักโภชนาการ รวมทั้งดูแลเรื่องการฝึกซ้อม โดยมีพี่ชายทั้งสองคนช่วยด้วย และการปรับเปลี่ยนครั้งนั้นก็นำความสำเร็จก้าวแรกมาสู่ “ครอบครัวขันติวีรวัฒน์” ในที่สุด

“เราช่วยกันดูแลวินเนอร์อย่างเต็มที่และดีที่สุด เพราะอยากให้ลูกก้าวไปเป็นนักเทนนิสอาชีพอย่างที่ฝัน พ่อกับแม่อยากให้วินเนอร์เป็นเหมือนคุณภราดร ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยนับครั้งไม่ถ้วน และตอนนี้วินเนอร์ก็ทำฝันแรกสำเร็จ นั่นคือการติดทีมชาติในชุดเยาวชน เราบอกลูกก่อนลงแข่งเสมอว่า ไม่อยากให้กดดันตัวเอง ทำได้แค่ไหนแค่นั้นพอ และขอให้ลูกชายทำให้เต็มที่” คุณแม่สุพินดา กล่าวถึงลูกชายสุดที่รัก และยังได้กล่าวต่ออีกว่า

“ทางครอบครัวขอขอบคุณสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ในเรื่องสนามฝึกซ้อมให้กับนักกีฬาเป็นอย่างดีค่ะ รวมไปถึงโค้ชสมาคมทุกท่านที่คอยแลกเปลี่ยนการฝึกซ้อมหรือเล่นแมทช์เพลย์ให้นักกีฬาได้เล่นหลากหลายและคลายความกดดันค่ะ และที่สำคัญตลอดเวลาที่ฝึกซ้อมอยู่ที่สมาคม นอกจากมีพี่ชายคนโตคอยช่วยเหลือน้องแล้ว ยังได้โค้ชอุ้ย ช่วยเรื่องการฝึกซ้อมและให้คำแนะนำตลอดเวลาที่อยู่ที่สมาคมค่ะ”

ในเรื่องอนาคตนั้น แน่นอนว่านักเทนนิสส่วนใหญ่ ความฝันสูงสุดนอกจากเรื่องทีมชาติแล้ว ก็คือการได้เป็นนักเทนนิสอาชีพ “วินเนอร์” หนุ่มน้อยเจ้าของความสูง 183 ซม. ก็มีความฝันนั้นเช่นกัน “ผมตั้งเป้าอยากมีอนาคตที่ดี เล่นเทนนิสจนมีชื่อเสียงและสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ ผมอยากเป็นนักเทนนิสอาชีพระดับโลก มีรายได้สำหรับครอบครัว อยากให้ทุกคนในครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีและสุขสบาย ผมอยากเป็นเหมือนพี่บอล (ภราดร) และประสบความสำเร็จเหมือน โนวัค ยอโควิช ผมชอบพี่บอล ชอบเพราะพี่เขาใจสู้มาก ถึงเป็นรองก็ไม่ย่อท้อ สู้ได้สุดยอดมาก สู้ทุกลูก พี่บอลเคยส่งกำลังใจมาให้ผมตอนแข่งด้วยครับ ผมดีใจมากๆ” วินเนอร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความมุ่งมั่น

เรื่องราวของนักเทนนิสหนุ่มน้อยรายนี้ สะท้อนให้เราเห็นอะไรหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะเรื่องความพยายามที่ไม่เคยทำร้ายใคร เพราะมันคือหัวใจของความสำเร็จ ตราบใดที่เขายังต้องมนต์เสน่ห์ของกีฬาลูกสักหลาด และไม่พลาดลืมความตั้งใจที่เขาวาดฝันไว้ในวัยเยาว์ เราอาจจะได้ชื่นใจกับผลงานของ “วินเนอร์” ธีรภัทร ขันติวีรวัฒน์ ในฐานะนักเทนนิสอาชีพจากประเทศไทย หรืออาจจะเป็น “ภราดร 2” อย่างที่กองเชียร์ชาวไทยรอคอย…ก็เป็นได้

LTAT