“จีนนี่” จิณห์นิภา ตราชูวณิช ดาวรุ่งที่ทำให้รู้จักคำว่า “เด็กกว่าแล้วไง”

Written by LTAT Admin

“จีนนี่” จิณห์นิภา ตราชูวณิช
ดาวรุ่งที่ทำให้รู้จักคำว่า “เด็กกว่าแล้วไง”

คอลัมน์ : เปิดตัวทีมชาติ 2564

“จีนนี่” จิณห์นิภา ตราชูวณิช
ดาวรุ่งที่ทำให้รู้จักคำว่า “เด็กกว่าแล้วไง”

เด็กที่เติบโตมาในครอบครัวเล็กๆ มีผู้ให้กำเนิดเป็นพ่อค้าแม่ขาย เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ในจังหวัดเพชรบุรี กาลเวลาผ่านไป จนวันหนึ่งที่เด็กน้อยเติบโต และเริ่มเข้าใจฐานะของครอบครัว อยากเห็นพ่อแม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากขึ้นกว่าเดิม และคาดหวังจะใช้กีฬาเทนนิสเป็นช่องทางช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัวในอนาคต

นี่คือเรื่องราวบางส่วนของ “จีนนี่” ด.ญ.จิณห์นิภา ตราชูวณิช นักเทนนิสเยาวชนหญิงทีมชาติไทย ประจำปี 2564 รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ที่ก้าวขึ้นมามีชื่อติดทีมชาติด้วยวัยเพียง 10 ปี 9 เดือนเท่านั้น (เกิด 24 สิงหาคม 2553)

จากเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรง ทำให้ คุณพ่อจิรัฏฐ์ และคุณแม่กนกทิพย์ ตราชูวณิช พยายามชักชวนลูกสาวในวัย 6 ขวบ มาเล่นกีฬา โดยหวังว่าลูกสาวสุดที่รักจะมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่ง “เทนนิส” เป็นกีฬาชนิดแรกที่ครอบครัวตัดสินใจพุ่งเป้าไป

“จีนนี่เป็นเด็กที่สุขภาพไม่แข็งแรง ใน 1 สัปดาห์ น้องจะไม่สบายไปแล้ว 4 วัน พอหายได้ 3 วัน ก็กลับมาป่วยอีก วนอยู่อย่างนี้ อีกอย่างคือน้องเป็นเด็กที่มีน้ำหนักตัวเยอะ จึงตัดสินใจให้เล่นกีฬา ส่วนเหตุผลที่เลือกเทนนิส เพราะว่ามีคุณพ่อ ซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาตัวแทนจังหวัดเพชรบุรี ที่เป็นทั้งต้นแบบและแรงบันดาลใจ โดยหลังจากเริ่มเล่นเทนนิสได้แค่ปีเดียว ร่างกายของ จีนนี่ ก็แข็งแรงมากขึ้น แม้อาการเหล่านั้นยังไม่หายขาด เพราะในรอบ 1 ปี น้องจะรู้สึกไม่สบายประมาณ 1 เดือน แต่โดยรวมถือว่าดีขึ้น” คุณแม่กนกทิพย์ เล่าเรื่องลูกสาวให้ฟัง

นักเทนนิสระดับโลกหลายคน เริ่มต้นโดยมีพ่อหรือแม่เป็นโค้ช เช่นเดียวกับ จิณห์นิภา ที่มีคุณพ่อจิรัฏฐ์ สวมบทบาทเป็นโค้ชตั้งแต่แรก ซึ่งได้ลองผิดลองถูกหลายครั้ง กว่าจะประสบความสำเร็จในขั้นแรกได้ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่น่าแปลกใจคือ การฝืนธรรมชาติด้วยการทดลองให้ลูกสาวหันมาใช้มือข้างที่ไม่ถนัดในการเล่นอยู่ 1 ปี ซึ่งเดิมที “จีนนี่” เริ่มเล่นด้วยมือขวา กระทั่งคุณพ่อได้ดูคลิปวิดีโอการแข่งขันของ ราฟาเอล นาดาล ยอดนักหวดชาวสแปนิช ที่เล่นด้วยมือซ้าย และได้เปรียบคู่แข่งในหลายจังหวะ จึงเป็นที่มาของการฝึกให้ “จีนนี่” หัดตีด้วยมือซ้าย อยู่ 1 ปี ทว่า ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เป็นดั่งใจหวัง จนในที่สุด “จีนนี่” ขอเป็นคนตัดสินใจเลือกด้วยตัวเองว่า จะเล่นด้วยมือขวา ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ทำให้มีผลงานที่ดี และปัจจุบันมีคุณลุงนาย ปกรณ์ วาสินานนท์ เป็นโค้ชอีกคน

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ “จีนนี่” มีพัฒนาการที่โดดเด่นเกินวัย จนแซงเพื่อนในรุ่นเดียวกัน มาจากการที่น้องแบกอายุลงแข่งข้ามรุ่นมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งสาเหตุที่ต้องเลือกใช้แนวทางนี้เพราะว่า ครอบครัวตราชูวณิช มีทุนไม่มากพอที่จะพาลูกสาวตระเวณแข่งขัน จึงจำเป็นต้องวางแผนและเลือกทัวร์นาเมนท์ โดยเน้นไปที่การให้ “จีนนี่” ลงแข่งขันในรุ่นที่โตกว่าอายุของตัวเอง เพื่อจะได้พัฒนาฝีมือกับนักหวดรุ่นพี่ไปในตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องได้แชมป์ แต่อย่างน้อยต้องได้ประสบการณ์ที่ดีกลับมา

“ลูกสาวไปซ้อมที่สนามเทนนิสของศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านก๋วยเตี๋ยวของครอบครัว เรียกว่าเป็นสถานที่ฝึกซ้อมหลักของน้องกับคุณพ่อเลยค่ะ ในช่วง 1 ปีก่อนแข่งคัดทีมชาติ น้องซ้อมทั้งเช้าและเย็น ไม่มีวันหยุด ยกเว้นว่าฝนตก เพราะอยากให้มีโอกาสแสดงฝีมืออย่างสุดความสามารถ จนในที่สุดก็ทำสำเร็จ จีนนี่ ได้อันดับ 2 พร้อมกับเป็นตัวแทนเยาวชนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ในฐานะนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดในทีม” คุณแม่กนกทิพย์ กล่าว

ด้าน น้องจีนนี่ ยังได้เผยถึงความรู้สึกและความประทับใจที่ได้สัมผัสบรรยากาศของการแข่งขันคัดตัวทีมชาติไทยครั้งนี้ด้วยว่า “ตอนแข่งคัดทีมชาติเป็นอะไรที่สนุก ตื่นเต้น และเข้มข้นมากๆ คะ โดยเฉพาะในรอบชิงฯ ที่แม้ว่าทั้งหนูและพี่พิณเพลง (ณัฐรดา สกุลวงศ์ธนา) จะคว้าสิทธิ์ติดทีมชาติแน่นอนแล้ว แต่ก็ยังสู้กันเต็มที่ ถึงหนูจะแพ้ แต่ก็รู้สึกประทับใจที่ได้สู้กับพี่พิณเพลงอย่างสุดความสามารถ หนูดีใจและภูมิใจในตัวเองมากคะ ที่สามารถผ่านการคัดเลือกได้เป็นตัวแทนทีมชาติไทยในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ ป๊ากับม๊า ที่คอยสอน และให้กำลังใจหนูเสมอมา จนมีวันนี้ได้”

สไตล์การเล่นเทนนิสของ “จีนนี่” นั้น เป็นสไตล์ All Court โดยอาศัยเกมบุกที่ดุดัน รวมถึงการหาจังหวะยิงวินเนอร์ ด้วยลูกโฟร์แฮนด์และแบ็คแฮนด์ ที่ทำให้คู่ต่อสู้ต้องคิดหนัก และน้องมียอดนักเทนนิสหญิงระดับโลกชาวอเมริกัน “เซเรน่า วิลเลี่ยมส์” เป็นต้นแบบ

ผลงานที่ “จีนนี่” ภูมิใจมาก นอกจากการติดทีมชาติแล้วก็มีอยู่หลายรายการ อาทิ รางวัลชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี รายการ ซีวี จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2020 รวมถึงการคว้าแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยว รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี การแข่งขันเทนนิสเยาวชน “อาเทนโก้-สคูลส์ เทนนิส เท็นส์ แอนด์ จูเนียร์ ทัวร์นาเม้นท์ พรีเซนเต็ด บาย ทรู อารีน่า หัวหิน” วันที่ 27-28 ก.พ.2564

นอกจากนี้ “จีนนี่” ยังทำผลงานได้ดี ในการแข่งขันเทนนิสเยาวชนเพื่อความชนะเลิศแห่งประเทศไทย โดยในการแข่งขัน ครั้งที่ 57 ประจำปี 2562 ได้รางวัลชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่ ในรุ่นอายุไม่เกิน 8 ปี ต่อมาในการแข่งขัน ครั้งที่ 58 ประจำปี 2563 ได้รางวัลรองชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว และรองชนะเลิศ ประเภทหญิงคู่ ในรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี

ขณะที่ผลงานในศึก “พีทีที-ลอนเทนนิสพัฒนาฝีมือ” รอบมาสเตอร์ รอบใหญ่สุดของสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ปี 2562 “จีนนี่” ซึ่งตอนนั้นอายุ 9 ปี ได้รองแชมป์หญิงเดี่ยว ในรุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี และปีต่อมา 2563 ก็แบกรุ่นไปได้รองแชมป์หญิงเดี่ยว ในรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี อีกด้วย

“ผมพยายามสร้างแรงจูงใจให้ลูก ให้ลูกได้เห็นด้วยตัวเองว่า เทนนิสให้อะไรบ้าง นอกจากเล่นแล้วทำให้ร่างกายแข็งแรง ยังเล่นเป็นอาชีพสร้างรายได้ได้ด้วย ผมบอกลูกเสมอว่าไม่อยากให้หนูต้องมานั่งขายก๋วยเตี๋ยวเหมือนป๊ากับม๊า หนูเห็นใช่ไหมว่ามันลำบาก ซึ่ง จีนนี่ ก็ตอบกลับมาด้วยความใสซื่อว่า หนูจะต้องติดทีมชาติชุดใหญ่ให้ได้ หนูอยากได้เหรียญรางวัล จะเล่นเทนนิสอาชีพให้เก่งๆ จะได้มีรายได้ให้ครอบครัวได้มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย และ จีนนี่ ยังบอกกับผมอีกว่า ถ้าหนูอายุครบ 16 เมื่อไหร่ จะเป็นคนเลี้ยง ป๊ากับม๊า เอง” คุณพ่อจิรัฏฐ์ เล่าด้วยน้ำเสียงที่สะท้อนถึงความภูมิใจในตัวลูกสาวสุดที่รัก

ปัจจุบัน “จีนนี่” หนูน้อยชาวเพชรบุรี ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี สำหรับกิจกรรมเสริมที่น้องสนใจและทำได้ดีนอกจากการเล่นเทนนิสคือ ทักษะด้านศิลปะ ที่การันตีผลงานด้วยการคว้ารางวัลไม่ต่างกับรางวัลที่ได้จากการเล่นเทนนิส นอกจากนี้ยังใช้เวลาว่างจากการฝึกซ้อมและแข่งขัน ไปช่วยงานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของครอบครัวเป็นประจำ โดยรับหน้าที่เป็นมือห่อเกี๊ยวตัวหลัก (คุณแม่ยืนยันว่าห่อสวยด้วยนะ) และส่งก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าในละแวกใกล้ร้าน

ในการแข่งขันคัดทีมชาติครั้งนี้ แม้จะถูกบันทึกว่าเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุดในทีม แต่สิ่งหนึ่งที่ “จีนนี่” ด.ญ.จิณห์นิภา ตราชูวณิช มีไม่น้อยไปกว่าคนอื่นๆ คือเรื่องของความมุ่งมั่น และความพยายามที่จะก้าวข้ามผ่านขีดจำกัดในหลายๆ เรื่อง จนสามารถทะยานขึ้นมายืนเป็น 1 ใน 3 นักหวดเยาวชนหญิงทีมชาติไทย ในรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ประจำปี 2564 ได้ในที่สุด ซึ่งแม้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่ก็เชื่อว่ายิ่งใหญ่เพียงพอที่จะสานต่อไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้.

LTAT