เดวิสคัพไทยตามเลบานอน
ลุ้น3คู่สุดท้ายชนะสถานเดียว
ทีมเดวิสคัพไทยตาม เลบานอน 0-2 คู่ ในการแข่งขันวันแรก ตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา ต้องชนะสถานเดียวในการแข่งขัน 3 คู่สุดท้าย เพื่อคว้าแชมป์กลุ่ม 2 พร้อมเลื่อนชั้นขึ้นสู่กลุ่ม 1 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย ในปีหน้า
การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย รายการ “เดวิสคัพ” บาย บีเอ็นพี พารีบาส์ ประจำปี 2018 รอบสามหรือรอบชิงชนะเลิศ กลุ่ม 2 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติเลบานอน ได้มีพิธีเปิดการแข่งขันขึ้น โดยมี มร.อองตวน กุสติน ตัวแทนจากบีเอ็นพี พารีบาส์, มร.โอลิเวอร์ ไฟซัล นายกสมาคมเทนนิสของเลบานอน และ พ.อ.วัฒนา จันทร์ไพจิตต์ กรรมการอำนวยการสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ร่วมด้วย ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ สมาคมกีฬาเทนนิสฯ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายน
ประเภทเดี่ยวสลับมือ คู่แรก “จูเนียร์” วิชยา ตรงเจริญชัยกุล เดี่ยวมือหนึ่งไทย วัย 23 ปี มือ 453 ของโลก ประเดิมสนามพบ ฮาดี้ ฮาบิบ เดี่ยวมือสองของเลบานอน ดาวรุ่งวัย 20 ปี มือ 643 ของโลก ปรากฎว่า วิชยา แพ้ ฮาดี้ ฮาบิบ 1-2 เซต 6-4, 6-7(2-7) และ 3-5 Ret. วิชยาขอยอมแพ้ เนื่องจากเป็นตะคริวที่น่องซ้าย โดยใช้เวลาแข่งขัน 2 ชั่วโมง 3 นาที ทำให้ทีมไทย ตามหลัง เลบานอน 0-1 คู่
ขณะที่คู่สอง “เน็ต” พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ เดี่ยวมือสองไทย ดาวรุ่งวัย 19 ปี มือ 1,398 ของโลก ลงดวลแร็กเก็ตกับ เบนจามิน ฮัสซัน เดี่ยวมือหนึ่งของเลบานอน วัย 23 ปี มือ 370 ของโลก ปรากฏว่า พลภูมิ แพ้ เบนจามิน ฮัสซัน 0-2 เซต 3-6, 4-6 ใช้เวลาการแข่งขัน 1 ชั่วโมง 12 นาที ทำให้จบการแข่งขันวันแรก ทีมเดวิสคัพไทย ตามหลัง เลบานอน 0-2 คู่
หลังการแข่งขัน “จูเนียร์” วิชยา เปิดเผยว่า ในระหว่างแมตช์ มีอาการตะคริวขึ้นนิดหน่อย แต่โดยรวมก็รักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองไว้ได้ ในเซตสองมีโอกาสเบรก แต่คู่แข่งก็ต้านเบรกพอยต์ไว้ได้ ส่วนแมตช์ต่อไปในประเภทเดี่ยวชนมือ ต้องเจอคู่แข่งที่มีประสบการณ์ จะพยายามเล่นให้ดีที่สุดและบุกกดดันคู่แข่งให้ได้
ด้าน “เน็ต” พลภูมิ กล่าวว่า แมตช์นี้ถือว่าค่อนข้างพอใจ เพราะคู่แข่งมีประสบการณ์สูงกว่า แต่ก็สู้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เขาแสดงฝีมือออกมาให้เห็น ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์ต่อรุ่นพี่คือ วิชยา ที่จะพบกันในประเภทเดี่ยวชนมือ ส่วนแมตช์ต่อไป จะเจอคู่แข่งที่อายุห่างกันแค่ปีเดียว และเล่นสไตล์บุก ซึ่งตัวเองชอบเล่นกับคนที่เล่นเกมบุกอยู่แล้ว และจะพยายามเล่นอย่างเต็มที่
นายวีรภัทร ดอกไม้คลี่ กัปตันทีมไทย กล่าวว่า ไม่เสียใจที่เสีย 2 แต้มแรก เพราะนักกีฬาเล่นได้ตามแผนที่วางเอาไว้ และสู้เต็มที่ ต้องชื่นชมนักกีฬาที่มีสมาธิกับเกม และผ่านความกดดันมาได้ ส่วนแมตช์ต่อไปในประเภทคู่ และเดี่ยวชนมือนั้นก็พอได้เห็นจุดที่เราจะสามารถเล่นอย่างไรให้ได้เปรียบคู่แข่งอยู่พอสมควรจากแมตช์ในวันนี้
พ.ต.อ.วัสสา วัสสานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมไทย กล่าวว่า แม้ทีมไทยจะเป็นฝ่ายตาม แต่ถ้าดูสกอร์ในค่อนข้างสูสี อย่างคู่ที่สองคู่แข่งก็มีอันดับโลกสูงกว่าและประสบการณ์มากกว่า ส่วนอีก 3 แมตช์ ทีมไทยจะต้องพยายามเก็บแต้มแรกจากประเภทคู่ให้ได้ก่อนลุ้นที่เดี่ยวชนมือ โดยเชื่อว่าเรายังมีโอกาสลุ้นอยู่ และเกมจะออกมาสูสีแน่นอน
ด้าน “ต้น” สนฉัตร รติวัฒน์ และ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ คู่นักหวดจอมเก๋าวัย 36 ปี กล่าวว่า ในประเภทคู่นั้นสำคัญมาก เพราะถ้าพลาดก็จบ แต่ถ้ามีแต้ม สถานการณ์มีโอกาสพลิกผันได้ ยอมรับว่ารู้สึกกดดัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ จะพยายามเล่นตามเกมของตัวเอง เพื่อเก็บแต้มแรกให้ได้
สำหรับการแข่งขันวันสุดท้ายในวันที่ 16 กันยายน คู่แรก เริ่มเวลา 10.00 น. ประเภทคู่ “ต้น” สนฉัตร รติวัฒน์ คู่มือ 123 ของโลก และ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ คู่มือ 122 ของโลก พบ ฮาดี้ ฮาบิบ คู่มือ 1,379 ของโลก และโจวานี่ ซามาฮา คู่มือ 1,187 ของโลก จากนั้นจะต่อด้วยประเภทเดี่ยวชนมือ วิชยา ตรงเจริญชัยกุล พบ เบนจามิน ฮัสซัน และปิดท้ายด้วย พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ พบ ฮาดี้ ฮาบิบ โดยทีมชาติไทยจำเป็นที่จะต้องคว้าชัยชนะให้ได้หมดทั้ง 3 คู่ จึงจะเป็นฝ่ายชนะ พร้อมกับได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่กลุ่ม 1 ของโซนเอเชีย/โอเชียเนีย ในปีหน้า แต่ถ้าหากแพ้จะคงสถานะอยู่กลุ่ม 2 ต่อไป
